รวบสาวซีเรียหวังใช้ไทยเป็นทางผ่านปลอมพาสสเปนไปเยอรมัน
ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติมอบหมายให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ดำเนินการปราบปรามกลุ่มองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติที่กระทำความผิดและส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีพฤติการณ์เป็นภัยต่อสังคมก่อให้เกิดอันตรายต่อความสงบสุขหรือความปลอดภัยของประชาชน หรือความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรนั้น
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม.,นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวย การท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.ต.ท.ธีรพล คุปตานนท์ ผบช.ทท., พล.ต.ต.กฤษกร พลีธัญญวงศ์, พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ, พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผบก.สส.สตม., พล.ต.ต.วรพงษ์ ทองไพบูลย์ ผบก.ทท.๑, พล.ต.ต.พฤทธิพงษ์ ประยูรศิริ ผบก.ตม.2, พ.ต.อ.เกติ์ฉกาจ นิลประดับ รอง ผบก.ตม.2, พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2, พ.ต.อ.อำนาจ โฉมฉาย ผกก.3 บก.ทท.1, พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม ผกก.สส.ปป.บก.ตม.2, พ.ต.อ.วิโรจน์ ตัดโส ผกก.สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จับกุม นางมานาล อาเหม็ด อัลนาเยฟ (Mrs.MANAL AHMAD ALNAYED) สัญชาติซีเรีย อายุ 32 ปี ข้อหา “ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ซึ่งหนังสือเดินทางปลอมฯ (หนังสือเดินทางประเทศสเปน)”
เมื่อวันที่ 18 ก.พ.62 พ.ต.อ.เพลิน กลิ่นพยอม ผกก.สืบสวนปราบปราม บก.ตม.2 สตม. จัดเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบเที่ยวบินเป้าหมายเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับเอกสารเดินทาง ตามนโยบาย ผบช.สตม. โดยเวลาประมาณ 09.30น. เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนภายในอาคารผู้โดยสารขาออก ตรวจพบหญิงต่างด้าวลักษณะคล้ายชาวตะวันออกกลางมีท่าทีผิดสังเกตขณะรอขึ้นเครื่องที่ประตูทางออกขึ้นเครื่องที่ C2 สายการบินยูโรวิงส์ เที่ยวบินที่ EW 1107 เส้นทางกรุงเทพฯ – เมืองดึสเซิลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนีเมื่อเจ้าหน้าที่แสดงตนขอตรวจสอบเอกสารเดินทาง หญิงต่างด้าวคนดังกล่าวแสดงหนังสือเดินทางประเทศสเปนให้ตรวจสอบยืนยันตัวตน ปรากฎชื่อ ALMPANA หรือ ALBANA นามสกุล SPATARAKOU หรือ SHPATARAKU จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการปลอมแปลงหน้าข้อมูลส่วนบุคคล จึงเชิญตัวบุคคลดังกล่าวมาสอบสวนเพิ่มเติม ณ ที่ทำการ กองกำกับการสืบสวนปราบปราม
จากการตรวจสอบสัมภาระของผู้โดยสารพบหนังสือเดินทางประเทศซีเรีย ระบุชื่อ Mrs.MANAL AHMAD ALNAYED อายุ 32 ปี โดยนางมานาลฯ ยอมรับว่าหนังสือเดินทางเล่มดังกล่าวเป็นหนังสือเดินทางจริงของตนเอง โดยนางมานาลฯ ต้องการที่จะเดินทางไปพำนักกับสามีชาวซีเรียชื่อนายยาการิย่ะฯที่ประเทศเยอรมนี ก่อนที่จะเดินทางมาถึงประเทศไทย นางมานาลฯเดินทางไปประเทศมาเลเซียเพื่อรับหนังสือเดินทางประเทศสเปนปลอมมาจากชายต่างชาติตะวันออกกลาง อายุประมาณ 40 ปี ไม่ทราบชื่อ-สกุลและสัญชาติ จากนั้นนางมานาลฯเดินทางออกจากประเทศมาเลเซียด้วยหนังสือเดินทางซีเรียของตนโดยนำหนังสือเดินทางประเทศสเปนปลอมติดตัวมาด้วย เมื่อมาถึงประเทศไทยได้พักรออยู่ในบริเวณจุดเปลี่ยนเครื่องเพื่อรอรับบัตรที่นั่งจากหญิงต่างชาติ ซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า ชื่อ ALMPANA หรือ ALBANA นามสกุล SPATARAKOU หรือ SHPATARAKU สัญชาติกรีซ อายุ 51 ปี โดยนัดพบกันที่บริเวณประตูทางออกขึ้นเครื่อง D1 นางมานาลฯรับว่าสามีของตนเป็นผู้ดำเนินการประสานเอเย่นต์จัดการทั้งหมด ในส่วนของผู้ให้การช่วยเหลือเรื่องบัตรที่นั่ง ราย Ms. ALMPANAฯ จากการสืบสวนพบว่าเดินทางมาจากประเทศมาเลเซียตั้งแต่วันที่ 16 ก.พ.62 ด้วยหนังสือเดินทางประเทศกรีซ พำนักในประเทศไทยจนกระทั่งวันที่ 19 ก.พ.62 ได้ออกบัตรที่นั่งสายการบินยูโรวิงส์ เที่ยวบินที่ EW 1107 เส้นทางกรุงเทพฯ – เมืองดึสเซิลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี และสายการบินไทย เที่ยวบินที่ TG 415 เส้นทางกรุงเทพฯ – กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยได้หลบหนีออกนอกประเทศทันทีหลังจากส่งมอบบัตรที่นั่งให้กับนางมานาลฯ
จากการประสานงานกับการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดไม่พบว่ามีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานใดให้การช่วยเหลือการการกระทำใดๆของผู้ต้องหากลุ่มนี้ ซึ่งจะได้สืบสวนขยายผลหาผู้ร่วมกระทำความผิดต่อไป
พ.ต.อ.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบก.ตม.2 กล่าวว่าในปี 2561 ที่ผ่านมามีความพยายามใช้ท่าอากาศยานเป็นสนามบินต้นทาง-สนามบินทางผ่านในการกระทำความผิดเกี่ยวกับเอกสารเดินทางถึง 70 ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่ มกราคมที่ผ่านมา พบการกระทำความผิดเกี่ยวกับเอกสารเดินทางแล้วถึง 16 ราย
จากกรณีดังกล่าว พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติงานใน ท่าอากาศยานต่างๆ เพิ่มความเข้มในการปฏิบัติหน้าที่โดยยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง,เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยว,เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ,เจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล,เจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานอื่นๆที่ปฏิบัติงานภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะพร้อมใจกันทำหน้าที่ในฐานะประตูหลักของชาติ หากพบคนต่างด้าวมีท่าทีพิรุธอาจจะเข้ามากระทำผิดกฎหมายหลบซ่อนในพื้นที่ท่าอากาศยานให้แจ้ง สายด่วน 1178 หรือ กก.สส.ปป.บก.ตม.2 หมายเลขโทรศัพท์ 02-134-0303 โดยเร็ว
